DewWeR-BerRy

DewWeR-BerRy

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สุพรรณบุรี

สุพรรณบุรีเป็นเมืองโบราณ พบหลักฐานทางโบราณคดีมีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500-3,800 ปี โบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ ยุคสำริด ยุคเหล็ก และสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ ฟูนัน อมราวดี ทวารวดี และศรีวิชัย สุพรรณบุรีเดิมมีชื่อว่า ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือ พันธุมบุรี ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน แถบ บริเวณตำบลรั้วใหญ่ไปจดตำบลพิหารแดง ต่อมาพระเจ้ากาแตได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำ แล้วโปรดให้มอญน้อยไปสร้างวัดสนามชัย และบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ชักชวนให้ข้าราชการจำนวน 2,000 คนบวช จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า สองพันบุรี ครั้งถึงสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้สร้างเมืองมาทางฝั่งใต้หรือทางตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ชื่อเมืองเรียกว่า อู่ทอง จวบจนสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมืองนี้จึงถูกเรียกว่าชื่อว่า สุพรรณบุรี นับแต่นั้นมา

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองหน้าด่านและเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ ต้องผ่านศึกสงครามหลายต่อหลายครั้ง สภาพเมืองตลอดจนโบราณสถานถูกทำลายเหลือเป็นซากปรักหักพัง จนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองสุพรรณบุรีได้ฟื้นตัวขึ้นใหม่ และตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน (ลำน้ำสุพรรณ) มาจนตราบทุกวันนี้

ความสำคัญของสุพรรณบุรีในด้านประวัติศาสตร์การกอบกู้เอกราชไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้แก่ ชัยชนะแห่งสงครามยุทธหัตถีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ณ สมรภูมิดอนเจดีย์ เป็นมหาวีรกรรมคชยุทธอันยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกจารึกไว้ และมีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ ในด้านวรรณคดี เป็นเมืองต้นกำเนิดแห่งตำนาน "ขุนช้างขุนแผน" วรรณคดีไทยเรื่องราวและสถานที่ที่ปรากฏตามท้องเรื่องยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน อาทิ บ้านรั้วใหญ่ วัดเขาใหญ่ ท่าสิบเบี้ย ไร่ฝ้าย วัดป่าเลไลยก์ วัดแค อำเภออู่ทอง และอำเภอศรีประจันต์

สุพรรณบุรี ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์บนพื้นที่ราบภาคกลางสืบสานความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตเมื่อ พ.ศ. 1420 จากนามเดิมเมืองพันธุมบุรีในยุคทวารวดีตามหลักฐานทางโบราณคดีได้จารึกชื่อไว้ในพงศาวดารเหนือ และนาม "สุพรรณภูมิ" ปรากฏในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชระบุว่าเป็นนครรัฐที่มีความสำคัญมาก่อนกรุงศรีอยุธยา เมื่อมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เมืองสุพรรณบุรีจึงจัดอยู่ในฐานะเมืองลูกหลวงซึ่งเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญอีกด้วย

ดอกไท้วันวาเลนไทน์











ดอกกุหลาบตูมสีขาว White Rosebud แด่เธอ...ที่ไม่มีความรู้สึก

ดอกกุหลาบขาว White Rose คุณมีค่าสำหรับฉัน

ดอกกุหลาบดอกเดียว Unique Rose สำหรับคุณ ที่ขี้เหร่

ดอกกุหลาบสีแดงเข้ม Deep red Rose อายจัง

ดอกกุหลาบสีแดงสด Full red Rose สำหรับคุณที่สวยที่สุดของฉัน

ดอกกุหลาบไร้หนาม Thornless Rose เป็นความรักครั้งแรกของฉัน

ดอกกุหลายสีขาวและแดงคู่กัน White and Red rose together มารวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกันเถอะ

ดอกกุหลาบสีเหลือง Yellow Rose อิจฉา ริษยา

ดอกคาเนชั่นสีแดงเข้ม Deep red Carnation สำหรับหัวใจที่แห้งเหี่ยว

ดอกคาเนชั่นสีชมพู Pink Carnation ความรักของผู้หญิง

ดอกคาเนชั่นสีเหลือง Yellow Carnation สำหรับคุณ ที่บริสุทธิ์ และน่ารัก

ดอกทิวลิป Tulip ฉันเสียสละทุกอย่างได้เพื่อคุณ

ดอกทิวลิปสีแดง Red Tulip ฉันรักคุณ

ดอกป๊อปปี้สีแดง Red Poppy ฉันจะคอยปลอบโยนคุณเอง

ดอกป็อปปี้สีขาว White Poppy ฉันเผลอรักคุณเข้าแล้ว

ดอกป็อปปี้สีม่วง Scarlet Poppy ฉันฝันเห็นหน้าคุณทุกคืน

ดอกไอวี่ Ivy แต่งงานกันเถอะ

ดอกไอวี่สีเหลือง Yellow Ivy ฉันหลงไหลในตัวคุณ

ดอกโรสแมรี่ Rosemary การเข้ามาในชีวิตผมของคุณ ทำให้ผมมีชีวิตชีวา

ดอกแจสมินอินเดีย Indian Jasmine ฉันเชื่อคุณ คุณเป็นคนสำคัญของฉัน

ดอกโครคัส Crocus ไม่มีพิษ ไม่มีภัย

ดอกรูห์บ๊าบ Rhubarb แนะนำ .. เตือนสติ

ดอกฮอลลี่ Holly ฉันไม่เคยลืมคุณ

ดอกบัตเตอร์คัพ Buttercup สำหรับคุณ ที่เป็นคนซื่อ(อาจจะบื้อ)

ดอกไลแลคสีม่วง Purple Lilac ความรักครั้งแรกที่หวานช่ำ

ดอกพีชสีม่วงแดง Peach Blossom ฉันยอมเป็นทาสของคุณ

ดอกไอรีส Iris ฉันมีอะไรจะบอกคุณ

ดอกเดซี่สีขาว White Daisy สำหรับคุณที่ไร้เดียงสา

ดอกแดนดิเลี่ยน Dandilion ความรักเป็นสิ่งที่พระเจ้า บันดาลให้

ดอกพิโอนี่ Peony รู้สึกอับอายขายหน้า

ดอกเบญมาศ Yellow Chrysanthemum ความรักที่บางเบาอ่อนไหวง่าย

ดอกแพนซี่ Pansy รำพึงรำพันถึงความรัก

ดอกบานชื่น Zania คิดถึงเพื่อนเก่า

ดอกบัว Lotus Flower รู้สึกบาดหมางในความรัก

ดอกรองเท้านารี Lady Slipper คุณชนะใจฉัน สวมกอดฉันสิ

ดอกดาวเรือง Marigold ฉันตกเป็นทาสของคุณแล้ว

ดอกผักกาดหอม Lettuce อย่าเย็นกับฉันนักเลย น๊ะขอร้อง

ผักชีฝรั่ง Parsley ความรู้ที่มีประโยชน์

ในสังคมจีนยังมีประเพณีนิยม ในการใช้จำนวนของดอกไม้บอกความหมายที่ลึกซึ้งแตกต่างกัน ดังนี้คือ
ดอกไม้ 1 หรือ 101 ดอก มีความหมาย รักเดียวเท่านั้น
ดอกไม้ 3 หรือ 33 ดอก มีความหมาย ฉันรักเธอ
ดอกไม้ 11 ดอก มีความหมาย รักเดียวใจเดียว
ดอกไม้ 77 ดอก มีความหมาย การขอแต่งงาน
ดอกไม้ 99 ดอก มีความหมาย ชั่วนิจนิรันดร์
ดอกไม้ 100 ดอก มีความหมาย รักเต็มร้อย
ดอกไม้ 365 ดอก มีความหมาย คิดถึงเธอทุกวัน
และดอกไม้ 999 ดอก มีความหมาย รักไม่สิ้นสุด
เทคนิค การแต่งหน้า ให้สดใสแบบวัยรุ่น

แต่งหน้า แบบ FRESH STYLE





ขั้นตอนที่ 1

เตรียมงานก่อนการแต่งหน้า โดยการทำความสะอาดหน้า และลงรองพื้นให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 2

ใช้แป้งฝุ่นลงรองพื้นใต้ขอบตาเพื่อสร้างฐานสีที่เราจะลง หลังจากนั้นเราจะลงสีรองพื้นบนเปลือกตา โดยจะใช้สีแสงสว่าง นวลประกาย
ลงเริ่มจากหัวตาไล่ไปโหนกคิ้วเน้นรอบหัวตามาถึงกลางตา

ขั้นตอนที่ 3

ต่อไปเราเพิ่มสีบนขอบดา โดยใช้แปรงที่มีขนาดเล็ก ผสมสี น้ำตาล แดง ม่วง ลงเกลี่ยบนเปลือกตาจากขอบตาด้านบนแล้วสบัด หนัก กลาง
เบา เข้าหาบริเวณกลางตา เกลี่ยให้เข้ากับสีพื้นที่ลงไว้ ทำทั้งขอบตาด้านบน และขอบตาด้านล่าง เน้นความคม หวานของดวงตา

ขั้นตอนที่ 4

สร้างเส้นขอบตา โดยใช้แปรงขนาดเล็กจุ่มน้ำเล็กน้อย แล้วนำไปจุ่มสีน้ำตาล นำไปลงบนเส้นขอบตาทั้งบนและล่าง เพื่อเพิ่มสร้างเส้นขอบตา
ให้ชัด และตาดูกลมโตขึ้น โดยเราเน้นในช่วงหัวตา การทำในขั้นตอนนี้ใช้แทนการใช้อายไลท์เนอร์



ขั้นตอนที่ 5

สร้างและซ่อมเส้นคิ้วโดยใช้ดินสอเขียนคิ้ว เพื่อช่วยเก็บราละเอียดของเส้นคิ้วที่ไม่เสมอ

ขั้นตอนที่ 6

ใช้แปรงขนาดเล็กลงสีคิ้ว ทำให้เส้นคิ้วเข้ารูป และดูไม่แข็ง ในข้อนี้เราจะใช้สีน้ำตาล โดยเริ่มลงจากสันโหนกคิ้วไปหาปลายคิ้ว
ให้ได้รูปเป็นอันดับแรก แล้วจึงกลับมาลงที่หัวคิ้ว

ขั้นตอนที่ 7

ใช้ที่ดัดขนตา ดัดขนตา

ขั้นตอนที่ 8

ปัดมัตคร่าร่าลงบนขนตา โดยใช้สีดำ ลงบริเวณโคลนขนตาให้ชุ่มแล้วสไลด์ไปหาปลายขนตา พยายามลงที่ละเส้นอย่าให้ติดกัน
เป็นแพ ทำทั้งขนตาด้านบน และด้านล่าง



ขั้นตอนที่ 9

ทำการปัดแก้ม และเก็บรายละเอียด โดยใช้สีน้ำตาล+ชมพู ปัดเป็นแนวเฉียงให้เข้ากับรูปหน้า และเก็บรายละเอียดให้กลมกลืน
ทั่วใบหน้า

ขั้นตอนที่ 10

ใช้สีน้ำตาลธรรมชาติสร้างขอบสันจมูก

ขั้นตอนที่ 11

สร้างเส้นขอบปากโดยใช้พู่กันแต้มลิบสติกสีชมพูกลีบกุหลาบ ลงเส้นขอบปากเพื่อสร้างความเด่นชัด

ขั้นตอนที่ 12

ใช้ลิบสติกสีชมภู่ลงบนริมฝีปากทาทับด้วยลิบกลอส์ใส่ แล้วเกลี่ยเส้นขอบปากให้เข้ากันดูกลมกลืน

แอปเปิ้ลลดน้ำหนัก

แอปเปิ้ล...ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก


การจำกัดปริมาณอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักนั้น เป็นเรื่องยากสำหรับคุณผู้หญิง เพราะไหนจะต้องทนต่อความหิวจนกว่าจะผอม แต่พอผอมสมใจกลับโดนทักว่าทำไมดูซีดเซียว ไม่สดชื่น อวบอั๋นเหมือนตอนก่อนลดน้ำหนัก

การรับประทานผลไม้จึงเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งการลดน้ำหนัก และการมีสุขภาพที่สดใส เพราะผลไม้ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหาร (Fiber) ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องมีน้ำตาลธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ ผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกนับไม่ถ้วน ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ไม่ทรุดโทรม จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเป็นที่สุด

เมื่อถามคนใกล้ตัวว่า "อยากลดน้ำหนักจะทานผลไม้อะไรดี?" เชื่อว่าคงได้คำตอบกว่าครึ่งเป็นผลไม้รูปร่างอวบอัดที่ชื่อว่า "แอปเปิ้ล" แน่ ๆ เพราะแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีสีสันชวนรับประทาน เนื้อสัมผัสกรอบ รสชาติอร่อย กลิ่นหอม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือไม่ทำให้อ้วน แอปเปิ้ลจึงได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก"

กินแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล ร่างกายแข็งแรง

แอปเปิ้ลให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลัก ซึ่งปริมาณวิตามินซีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว และความสด เนื้อแอปเปิ้ล 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 6 มิลลิกรัม และให้พลังงานราว 59 แคลอรี ไม่ทำให้อ้วน แต่แอปเปิ้ลก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์ชนิดอื่นทดแทน แบบที่เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าผลไม้อื่นแต่อย่างใด

พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกัน

เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะในทางเดินอาหารมีการทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ และยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่และสารอาหารที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ บี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน สารอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะวิตามินซี และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

แอปเปิ้ลเขียว หรือแอปเปิ้ลแดง ที่มีประโยชน์มากกว่ากัน

เมื่อวิเคราะห์จากคุณค่าสารอาหารต่าง ๆ เปรียบเทียบระหว่างแอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แอปเปิ้ลแดงมีเหนือกว่าเล็กน้อยคือ ปริมาณของสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์นั่นเอง

ดื่มน้ำแอปเปิ้ล ก็ได้ประโยชน์เท่ากินทั้งลูก?

จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะพบว่าประโยชน์ของแอปเปิ้ลมาจากองค์ประกอบ 3 ตัวด้วยกันคือ จากเส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากบริเวณเปลือก และจากน้ำตาลฟรักโทสที่มีมากในเนื้อแอปเปิ้ล ดังนั้นหากต้องการดื่มน้ำแอปเปิ้ล ควรเลือกวิธีการปั่นทั้งผล โดยไม่ต้องปอกเปลือก เพราะหากใช้วิธีคั้นน้ำ จะทำให้ได้เฉพาะน้ำตาลและสารต้านอนุมูลอิสระอีกเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้อ้วนได้มากกว่าเดิม และไม่ได้รับประโยชน์ทั้งหมดจากแอปเปิ้ลอย่างครบถ้วน

กินแอปเปิ้ลอย่างไรให้ได้ประโยชน์

ในแง่โภชนาการ แอปเปิ้ลไม่ใช่ผลไม้ที่มีวิตามินหรือแร่ธาตุในปริมาณสูงมากนัก เมื่อเทียบกับกล้วย ฝรั่งหรือส้ม แต่หากทานแอปเปิ้ลวันละ 2-4 ลูก โดยไม่ปอกเปลือกก็จะได้รับเส้นใยอาหารและสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ

ในปัจจุบันมีการกล่าวอ้างสรรพคุณของแอปเปิ้ลมากมาย เช่น บำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และฆ่าเชื้อไวรัส ซึ่งหากต้องการจะรับประทานแอปเปิ้ลสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมน้ำหนักแล้ว ก็ควรต้องทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผักผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย






PhoTo





































ประวัติ PowerPuff GirlS

พาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ เกิดจากการทดลองที่ผิดพลาดของ ศจ.ยูโทเนียม โดย ศจ.ยูโทเนียม ต้องการเด็กหญิงสมบูรณ์แบบ โดยการผมสมน้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก และสารเคมี X โดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วเกิดเป็นเด็กหญิง 3 คนได้แก่ บลอสซัม บัตเทอร์คัพ และ บับเบิลส์ พวกเธอเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ และใช้พลังนี้ในฐานะซูเปอร์ฮีโร่เพื่อช่วยปกป้องโลก ส่วน ศจ.ยูโทเนียม เขาก็รับหน้าที่เลี้ยงดูเหมือนกับเป็นพ่อคนหนึ่ง และคอยให้คำแนะนำสั่งสอน 3 สาวเป็นประจำ ทั้งยังคอยประดิษฐ์คิดค้นของใหม่ ๆ ให้กับพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์อีกด้วย
บลอสซัม (Blossom)

เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ทั้งยังเป็นผู้นำของพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์อีกด้วย ลักษณะของบลอสซัมคือ ไว้ผมยาวและมีผมสีน้ำตาล ใส่ชุดสีชมพู ตาสีชมพู ผูกโบว์สีแดงที่ผม บลอสซัมเป็นผู้นำกลุ่มพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ มีความเป็นผู้นำสูงจนเกินไป ด้วยลักษณะนิสัยของเธอนี่เองที่ทำให้เธอดูเหมือนเป็นพี่สาวของบับเบิลส์และบัตเตอร์คัพ แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 3 คนเกิดมาพร้อมกัน มีพลังไอเย็นน้ำแข็ง ที่ต่างจากบัตเทอร์คัปและบับเบิลส์


บับเบิลส์ (Bubbles)

คือเด็กหญิง 5 ขวบ ไว้ผมหางม้า ผมสีทอง ใส่ชุดสีฟ้า ตาสีฟ้า ชอบอุ้มตุ๊กตา บับเบิลส์เด็กสาวที่เรียบร้อยพอ ๆ กับความเอ๋อ เป็นคนรักสัตว์ รักธรรมชาติ แต่เมื่อบับเบิลส์เกิดโมโหขึ้นมา ไม่สามารถมีใครหยุดยั้งเธอได้ เธอมีความสามารถในการ คุยภาษาสัตว์และภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษาสเปน เป็นต้น


บัตเทอร์คัป (Buttercup)

เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ไว้ผมสั้น ใส่ชุดสีเขียว ตาสีเขียว บัตเทอร์คัปเป็นเด็กสาวห้าวในกลุ่มพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ ขี้โมโห โวยวายเหมือนเด็กผู้ชาย ชื่นชอบการต่อสู้ที่มีความรุนแรง ในฉบับภาพยนตร์ของ "เดอะพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์" เปิดเผยว่า ศจ.ยูโทเนียมตั้งชื่อว่า "บัตเทอร์คัป" เพื่อให้มีอักษรนำหน้าด้วย B เหมือนอีกสองคน ชื่อ buttercup เป็นชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่ง เป็นพืชไม้ดอกที่เป็นรูปถ้วยสีเหลือง